จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ศักยภาพด้านแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมของจังหวัดพะเยา

พิทยะ ศรีวัฒนสาร
ภาควิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

-พัฒนาการทางประวัติศาสตร์
จากหลักฐานประเภทเอกสารตำนานพื้นเมืองล้านนา อาทิ ตำนานเมืองเงินยางเชียงแสน(หรือเมืองหิรัญนครเงินยาง) ซึ่งกล่าวถึงความเป็นมาของการตั้งถิ่นฐานระยะแรกของชุมชนแคว้นไทยตั้งแต่สมัยขุนลาวเคียง[1]บรรพบุรุษของขุนจอมธรรมกษัตริย์องค์แรกแห่งแคว้นพะเยา(จ.ศ.๔๕๘, พ.ศ.๑๖๓๙)[2] อาจจะกล่าวได้ว่า จังหวัดพะเยาเป็นเมืองโบราณที่มีพัฒนาการยาวนานมาอย่างน้อยตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่๑๔ แล้ว เนื่องด้วยปัจจัยของการมีสภาพที่ตั้งอยู่ในที่ราบเชียงราย-พะเยาซึ่งมีแหล่งน้ำเป็นองค์ประกอบที่กำหนดความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ในการตั้งถิ่นฐานของชุมชน ได้แก่ กว๊านพะเยา หนองเล็งทราย ห้วยร่องทง ห้วยร่องเตี้ยลำน้ำแม่อิง แม่น้ำยม ลำน้ำแม่ปืม ลำน้ำแม่ต๊ำ ห้วยแม่ทุ่ม ลำน้ำแม่เหยี่ยน ห้วยร่องบ่อ ห้วยแก้ว แม่น้ำลาว แม่น้ำยวน และแม่น้ำทาน เป็นต้น[3] โดยเฉพาะที่ราบลุ่มรอบกว๊านพะเยาซึ่งปรากฎร่องรอยการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณ(เมืองโบราณ)ที่มีคูน้ำคันดินล้อมรอบถึง๑๐แห่ง[4]

จังหวัดพะเยามีชื่อเรียกดั้งเดิมปรากฏอยู่ในตำนานและศิลาจารึกต่างๆ อาทิ ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่เรียกว่า “เมืองพูยาว”[5] ตำนานพื้นเมืองพะเยาเรียกว่า “เมืองภูกามยาว”[6] หรือ “เมืองภุกามยาว”[7] หรือ “เมืองพะยาว” [8] ส่วนหลักฐานประเภทศิลาจารึกอักษรล้านนา อาทิ จารึกวัดอารามป่าญะ(พ.ศ.๒๐๓๘) เรียกตำแหน่งเจ้าเมืองพะเยาในสมัยพุทธศตวรรษที่๒๑ว่า“(พระเป็นเจ้า)เจ้าสี่หมื่นพยาว”[9] และจารึกเจ้าสี่หมื่นผู้เป็นปู่เลี้ยง(พ.ศ.๒๐๓๓)เรียกชื่อเมืองพะเยาว่า “เมิงพญาว”[10]

อย่างไรก็ดี ตามที่มีผู้ศึกษากันมานั้นพัฒนาการประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของเมืองพะเยาอาจจำแนกออกได้เป็น ๔ สมัย คือ สมัยเริ่มสร้างบ้านแปงเมือง: สู่นครรัฐอิสระ สมัยผนวกเมืองเข้าสู่อาณาจักรล้านนา สมัยพม่าปกครองล้านนา: เมืองร้างและร่วงโรย สมัยรัตนโกสินทร์: ยุคฟื้นฟู ซึ่งจะได้กล่าวถึงโดยสังเขปดังนี้ [11]

สมัยที่ ๑ สมัยเริ่มสร้างบ้านแปงเมือง: สู่นครรัฐอิสระ
เมื่อกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของเมืองพะเยาในยุคสร้างบ้านแปงเมืองนั้น ตำนานเมืองเงินยางเชียงแสนและพงศาวดารโยนกจะเริ่มกล่าวถึง ขุนเงิน[12] หรือพญาลาวเงิน(พระยาลาวเงิน)ผู้ครองเมืองหิรัญนครเงินยาง(เชียงแสน) ได้ส่งราชบุตรองค์น้อยนามว่า “ขุนจอมธรรม” ไปครองเมืองฝ่ายใต้ ณ เชิงเขาชมภู หรือ ดอยด้วน ใกล้แม่น้ำสายตาหรือลำน้ำแม่อิงชื่อ “เมืองภูกามยาว”หรือ “พะเยา” ซึ่งเป็นเมืองโบราณมีมาแต่เดิม [13] ชัยภูมิของเมืองภูกามยาวประกอบด้วยมงคล ๓ ประการคือ มีลำน้ำแม่อิงอยู่ทางใต้ กระแสน้ำไหลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีหนองน้ำหลายแห่ง อาทิ กว๊านพะเยาหรือหนองเอี้ยงอยู่ทางทิศตะวันตก และบริเวณหัวเวียง คือ ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกว๊านพะเยายังเป็นที่ตั้งของพระบรมธาตุดอยจอมทองปูชนียสถานคู่เมืองอีกด้วย[14]

ขุนจอมธรรมได้จัดระบบการปกครองและโครงสร้างทางสังคมของเมืองภูกามยาวออกเป็น ๓๖ พันนา[15] แต่ละ “พันนา” มีขนาดใกล้เคียงกับตำบลในปัจจุบัน [16]ผู้ปกครองพันนามียศเรียกว่า “เจ้าหมื่น” อาทิ เจ้าหมื่นดอนแปลนกินพันนาดอนแปลน เป็นต้น พงศาวดารโยนกกล่าวว่า
“ครั้งนั้นมีพลเมือง ๑๘๐,๐๐๐ ให้จัดเป็นแขวงจังหวัดได้ ๓๖ พันนา คือ ราษฎรคนหนึ่ง
กำหนดให้ถือนาห้าหมื่น(ตรงกับข้าวปลูกห้าถัง) ไพร่๕ คน ยกเป็นหัวนาคนหนึ่ง ๕ หัว
นายกเป็นหมวดนาหนึ่ง…”[17]

หน่วยการปกครองที่มีฐานะรองลงมาจากพันนา เรียกว่า “ปากนา” ผู้ปกครองมียศเป็น “ พัน” ควบคุมขุนนางที่มียศเป็น “ปาก” อาทิ “ปากมงคล” ปากเทพ” เป็นต้น ส่วนหน่วยการปกครองเล็กที่สุด คือ หมู่บ้านซึ่งมี “แก่บ้าน” เป็นผู้ปกครอง[18]

ระบบการปกครองแบบพันนามีขนาดเล็กกว่าเมือง การปกครองแบบพันนามีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดให้จำนวนไพร่[19]สังกัดพันนามีจำนวนสมดุลกับขนาดของที่ดินในพันนา และเพื่อให้แต่ละพันนาสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างเหมาะสมกับขนาดของแคว้น[20] ในยุคนี้ พะเยามีเมืองต่างๆอยู่ภายใต้การปกครอง ได้แก่ เมืองลอง เมืองเทิง เมืองคอบจะลาว เมืองออย เมืองแจ้เสียง เมืองหนองขวาง เมืองแจ้หลวง เมืองแจ้ห่ม และเมืองวัน เป็นต้น[21]

ในยุคสร้างบ้านแปงเมืองนี้ กษัตริย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของแคว้นพะเยา คือ ขุนเจื๋องหรือพญาเจื๋อง โอรสของพ่อขุนจอมธรรม[22] วีรบุรุษแห่งตำนานพื้นเมืองล้านนาผู้ทรงมีพระบรมเดชานุภาพรวบรวมดินแดนล้านนา ล้านช้างและเมืองแกวปะกัน(เวียดนาม)ให้เป็นหนึ่งเดียวกันชั่วระยะเวลาหนึ่งเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่๑๗ และยังได้ทรงเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางการสมรสกับอาณาจักรเชียงรุ้ง(สิบสองปันนา) แพร่และน่านนอกจากนี้ชาวล้านนายังถือว่า พญาเจื๋องทรงเป็นบรรพบุรุษของพญางำเมือง(พะเยา) พญามังราย(เชียงใหม่)อีกด้วย[23]

กษัตริย์ที่มีชื่อเสียงอีกพระองค์หนึ่งของอาณาจักรพะเยา คือ พญางำเมือง(ประสูติพ.ศ.๑๗๘๑-?) พระองค์ทรงเป็นพระสหายร่วมสำนักสุกทันตฤาษีแห่งกรุงละโว้(ลพบุรี)กับพญาร่วงแห่งกรุงละโว้(พ่อขุนรามคำแหง) และยังทรงเป็นพระสหายกับพญามังรายแห่งเชียงใหม่ด้วย โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่พญามังรายทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในปีพ.ศ.๑๘๓๙ พระสหายทั้งสองคือ พญางำเมืองและพญาร่วงยังได้เสด็จฯไปร่วมพิจารณาชัยภูมิด้วย[24]

สมัยที่ ๒ สมัยผนวกเมืองเข้าสู่อาณาจักรล้านนา
ในปีพ.ศ.๑๘๓๕ เมื่อพญามังรายแห่งเมืองเชียงใหม่ยึดครองอาณาจักรหริภุญชัย(ลำพูน)ศูนย์ทางการค้าและพระพุทธศาสนาสำเร็จ และยังทรงยึดครองเมืองเขลางค์นคร(ลำปาง)ได้ในเวลาต่อมา หลังจากนั้นจึงทรงก่อตั้งอาณาจักรนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางในการปกครองดินแดนล้านนา โดยยังทรงรักษาพระราชไมตรีต่อพญางำเมืองและพญาร่วงไว้ได้[25]

อย่างไรก็ดี ในรัชสมัยพญาคำฟู(พ.ศ.๑๘๘๗–๑๘๘๘)[26] อาณาจักรเชียงใหม่ได้ร่วมมือกับพญาผานองแห่งเมืองปัว(น่าน)เข้ายึดครองเมืองพะเยาในรัชสมัยของพญาคำลือ และลดฐานะเมืองพะเยาไปเป็นเมืองบริวารของเมืองเชียงราย แต่ถึงกระนั้นก็ตามกษัตริย์เชียงใหม่มักส่งเชื้อพระวงศ์ระดับสูงมาปกครองเมืองพะเยาเสมอ โดยเฉพาะในรัชสมัยพระเจ้าติโลกราช(พ.ศ.๑๙๘๔–๒๐๓๐) พระองค์ได้พระราชทานเมืองพะเยาแก่พระยายุทธิษฐิระอดีตเจ้าเมืองสองแคว (พิษณุโลก)ที่ได้เข้ามาสวามิภักดิ์ต่อพระองค์ระหว่างสงครามเชียงใหม่กับกรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ(พ.ศ.๑๙๙๑–๒๐๓๓)เพื่อครอบครองอาณาจักรสุโขทัย กล่าวกันว่าในช่วงที่พระยายุทธิษฐิระปกครองเมืองพะเยานี้ ถือว่าเป็นอีกยุคหนึ่งเมืองพะเยามีความเจริญรุ่งเรือง[27]

สมัยที่ ๓ สมัยพม่าปกครองล้านนา: เมืองร้างและร่วงโรย
ประวัติศาสตร์ของเมืองพะเยาค่อนข้างมีความเชื่อมโยงกับอาณาจักรล้านนา ดังนั้นเมื่อเกิดความเสื่อมขึ้นในอาณาจักรล้านนาเมื่อปลายสมัยราชวงศ์มังราย จึงส่งผลให้อาณาจักรล้านนาตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรพม่าในรัชสมัยพระเจ้าบุเรงนองระหว่างพ.ศ.๒๑๐๑-๒๓๑๗ บ้านเมืองที่เคยผูกพันกันอย่างหลวมๆจึงกลับมีสภาพเสื่อมโทรม โดยในยุคนี้ศูนย์ทางการเมืองการปกครองของล้านนาถูกแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ เมืองเชียงแสน เป็นศูนย์กลางของล้านนาตอนบนเนื่องจากอยู่ใกล้ชายแดนพม่า เมืองเชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางของล้านนาตอนล่าง ส่วนเมืองพะเยานั้นยังคงขึ้นตรงต่อเมืองเชียงราย ซึ่งมีฐานะเป็นรองเมืองเชียงแสน ในช่วงเวลาดังกล่าวตำนานเมืองเงินยางเชียงแสนระบุว่าชาวพะเยาบางส่วนได้อพยพหนีภัยสงครามไปยังกรุงเวียงจันทน์ ในช่วงปลายแห่งการตกเป็นประเทศราชของพม่านั้น เจ้าเมืองพะเยาและเชียงรายพยายามรวบรวมกำลังต่อต้านการถูกกดขี่ภายใต้การปกครองของพม่าเมื่อปีพ.ศ.๒๓๐๘ แต่ก็ถูกปราบปรามลงได้ ในปีพ.ศ.๒๓๑๗ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงยกทัพมาขับไล่พม่าออกจากเมืองเชียงใหม่แล้วตั้งเจ้ากาวิละเจ้าเมืองลำปางปกครองเมืองเชียงใหม่ และในปีพ.ศ.๒๓๓๐เชื้อสายเจ้าเมืองพะเยาและชาวเมืองส่วนหนึ่งได้อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกในขณะที่เมืองเชียงแสนยังคงอยู่ภายใต้การยึดครองของพม่า[28]

สมัยที่ ๔ สมัยรัตนโกสินทร์: ยุคฟื้นฟู
ในช่วงที่ถูกพม่าเข้ายึดครอง เมืองพะเยาตกอยู่ในสภาพเหมือนเมืองร้างที่ขาดการทำนุบำรุงจากผู้ปกครองเช่นเดียวกับหลายเมืองในอาณาจักรล้านนา ครั้นกรุงรัตนโกสินทร์สามารถผนวกดินแดนล้านนาเป็นส่วนหนึ่งได้แล้ว จึงมีการบูรณปฏิสังขรณ์เมืองสำคัญเป็นอันดับแรก ได้แก่ เมืองเชียงใหม่ ลำพูนและลำปาง จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีการฟื้นฟูเมืองพะเยา เมืองงาวและเมืองเชียงรายขึ้นมาอีกครั้งในปีพ.ศ.๒๓๘๖ โดยให้เมืองงาวและเมืองพะเยาขึ้นตรงต่อเมืองลำปาง ส่วนเมืองเชียงรายไปขึ้นกับเมืองเชียงใหม่ และชาวเมืองพะเยาที่อพยพไปตั้งบ้านเรือนณ เมืองลำปางนั้นก็ถูกเกณฑ์มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านสันเวียงใหม่ จากนั้นจึงมีการแผ้วถางเมืองเก่าและบูรณะวัดวาอารามให้กลับดีดังเดิม เจ้าเมืองพะเยาองค์แรก คือ เจ้าพุทธวงศ์เจ้าหลานวงศ์ เชื้อสายเจ้าเจ็ดตนผู้ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น “พระยาประเทศอุดรทิศ” ในปีพ.ศ.๒๓๘๗[29]

-ศักยภาพด้านแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรม
จากพัฒนาการอันยาวนานของเมืองพะเยาบนผืนแผ่นดินล้านนา ประกอบกับปัจจัยด้านสภาพที่ตั้งอันเหมาะสมในภาคเขตภาคเหนือตอนบน ทำให้จังหวัดพะเยาปรากฏหลักฐานอันชี้ให้เห็นถึงอัตลักษณ์ด้านมรดกศิลปวัฒนธรรมอย่างมั่งคั่ง ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์โบราณคดี โบราณสถาน ย่านประวัติศาสตร์ ศิลปหัตถกรรม งานช่างฝีมือ ภูมิปัญญาด้านต่างๆ ภาษา การละเล่นพื้นเมือง ดนตรี ศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี การแต่งกาย การกินอยู่ และกิริยามารยาท

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลฝ่ายเหนือและมณฑลพายัพ ก็ทรงเคยเสด็จฯมานมัสการวัดพระเจ้าตนหลวงและวัดพระธาตุจอมทองเมื่อวันที่๑๔ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๙ เวลา ๑๐.๐๐ น. นอกจากนี้ยังได้เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงมหรสพพื้นเมืองที่บ้านแม่ต๋ำในเวลาค่ำด้วย[30] จากข้อพิจารณาดังกล่าวข้างต้นชี้ให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมของจังหวัดพะเยาที่สมควรจะมีการแสวงหาแนวทางเพื่อจะได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาให้ยั่งยืนอย่างสืบเนื่องต่อไป

[1] สงวน โชติสุขรัตน์, ตำนานเมืองเหนือ. (พระนคร: แม่บ้านการเรือน, ๒๕๐๘) หน้า๒๑๒
[2] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดพะเยา, (กรุงเทพฯ : คุรุสภา, ๒๕๔๔), หน้า๓๑
[3] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า๒-๓
[4] สุรพล ดำริห์กุล, ล้านนา: สิ่งแวดล้อม สังคมและวัฒนธรรม. (กรุงเทพฯ: องค์การค้าคุรุสภา, ๒๕๔๒), หน้า ๒๒–๒๓
[5] อรุณรัตน์ วิเชียรเขียวและเดวิด เค. วัยอาจ, ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่. (กรุงเทพฯ: โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮาส์, ๒๕๔๓), หน้า ๒๒
[6] พระยาประชากิจกรจักร์, พงศาวดารโยนก. (กรุงเทพฯ: บุรินทร์การพิมพ์, ๒๕๑๖), หน้า๒๓๒
[7] สงวน โชติสุขรัตน์, เรื่องเดิม. หน้า๒๑๒
[8] สงวน โชติสุขรัตน์, เรื่องเดิม, หน้า ๒๑๒–๒๑๓
[9] โครงการวิจัยการปริวรรตและชำระจารึกล้านนา, จารึกภาค ๑เล่ม ๑ จารึกจังหวัดเชียงราย น่าน พะเยา แพร่. มูลนิธิเจมส์ เอช ดับเบิ้ลยู ทอมป์สัน จัดพิมพ์ ในวโรกาสสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีพระชนมายุครบ๓รอบ พุทธศักราช๒๕๓๔, หน้า๑๑๕
[10] โครงการวิจัยการปริวรรตและชำระจารึกล้านนา, เรื่องเดิม, หน้า๑๘๗
[11] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า ๑๗
[12] สงวน สุขโชติรัตน์, เรื่องเดิม, หน้า ๒๑๒
[13] พระยาประชากิจกรจักร์, เรื่องเดิม, ๒๓๒
[14] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า๑๗
[15] พระยาประชากิจกรจักร์, เรื่องเดิม, ๒๓๓
[16] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า๑๗
[17] พระยาประชากิจกรจักร์, เรื่องเดิม, หน้า๒๓๓
[18] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า ๑๘
[19] ระบบการควบคุมกำลังคนแบบหนึ่งในสังคมไทยสมัยโบราณ
[20] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า๑๗
[21] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า ๑๙
[22] พระยาประชากิจกรจักร์, เรื่องเดิม, หน้า ๒๓๖–๒๓๙
[23] พระยาประชากิจกรจักร์, เรื่องเดิม, หน้า๒๓๕–๒๔๐
[24] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า๒๑–๒๓
[25] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า๒๔
[26] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๒), วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาจังหวัดเชียงใหม่ , (กรุงเทพฯ : คุรุสภา, ๒๕๔๔), หน้า๔๘
[27] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า๒๕–๒๘
[28] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า๒๘-๒๙
[29] คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒(๑), เรื่องเดิม, หน้า๓๒
[30] รองอำมาตย์ตรี กมล มโนชญากร, จดหมายเหตุเสด็จพระราชดำเนิรเลียบมณฑลฝ่ายเหนือพระพุทธศักราช๒๔๖๙(พระนคร: โสภณพิพิธธนากร, ๒๔๗๔), หน้า๗๓-๗๕

24 ความคิดเห็น:

  1. http://turismindustrydpu0004aruneeaphi.blogspot.com/

    นางสาว อรุณี อภิดิลกกุล
    530105030217

    ส่งงานคะ

    ตอบลบ
  2. ศันสนีย์ ปะนะสุภา
    http://tourismindustry0004sunsanee.blogspot.com
    530105030221
    คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม

    ตอบลบ
  3. ส่งงานค่ะ

    http://tourismindustrydpu004apisarapattanasu.blogspot.com/


    นางสาวอภิสรา พัฒนสุข
    530105030183
    กลุ่ม 004

    ตอบลบ
  4. ส่งงานคับ
    นายจตุพร เบญจมณี
    530105030225

    http://530105030225dpu.blogspot.com/

    คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม

    ตอบลบ
  5. ส่งงานคะ^^
    http://appledpuas530105030187.blogspot.com/

    นางสาวทิพย์สุคนธ์ บุญรัตนผล
    530105030187

    คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม

    ตอบลบ
  6. ส่งงานค่ะ

    http://pattayadpu530105030195.blogspot.com/

    นางสาวพัทยา โพธิ์ตะโก
    530105030195

    คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม

    ตอบลบ
  7. ส่งงานค่ะ

    http://turismindustrydpu.blogspot.com/

    นางสาว ปภัสสร ประสพเหมาะ
    530105030209

    คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม

    กลุ่ม 004

    ตอบลบ
  8. ส่งงานค่ะ

    http://tourismindustrydpu004wipaweenanayo.blogspot.com/

    นางสาววิภาวี นานายน
    530105030228
    กลุ่ม 004

    ตอบลบ
  9. ส่งงานค่ะ

    http://kanmanee-dpuas530105030257.blogspot.com/

    นางสาว กาญจน์มณี จรุงพรสวัสดิ์

    530105030257

    คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม

    กลุ่ม 004

    ตอบลบ
  10. ส่งงานคับ
    http://530105030185dpu.blogspot.com/

    นายกฤษณะ สรวมศิริ
    5301050185

    คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม

    ตอบลบ
  11. http://industrytourism004-wanrawee.blogspot.com/

    ส่งงานค่ะ น.ส.วรรณรวี วงเจริญพรกุล
    530103050247
    คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม

    ตอบลบ
  12. อาจารย์ครับ ส่งงานอยากจะให้อาจารย์ตรวจ


    ที่ http://tourismindustrydpu005chalermwit.blogspt.com

    5201-0111-0033
    นาย เฉลิมวิทย์ ศรีสุวรรณ
    คณะบริหารธุรกิจ
    สาขาการจัดการธุรกิจท่องเที่ยว

    ตอบลบ
  13. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  14. ส่งงานค่ะ

    http://tourismindustrydpu004Chanaponarpanthanu.blogspot.com

    นางสาวชนาพร อาพันธนุพงศ์
    530105030249 Sec.004
    คณะศิลปศาสตร์และวิทยาสตร์
    สาขาการโรงแรมและท่องเที่ยว

    ตอบลบ
  15. ชนาพรเขียนชื่อคณะก็ไม่ถูก เขียนวิทยาศาสตร์ดูแล้ว คล้ายกับคำว่า กระยาสารท หักคณะแนน
    อ.พิทยะ

    ตอบลบ
  16. ครูหาบล็อกของชนาพรไม่เจอ ติดต่อด่วน
    อ.พิทยะ

    ตอบลบ
  17. อาจารย์ค่ะ .. แก้งานแล้วนะค่ะ

    ตอบลบ
  18. อาจารย์ค่ะส่งบล็อกค่ะ

    ถ้ามีอะไรต้องแก้ไข

    ช่วยแนะนำด้วยน่ะค่ะ

    ที่http//tourismindustrydpu2010ladawan.blogspot.com
    520101110046
    ลดาวัลย์ โทนหงศา
    การจัดการธุรกิจท่องเที่ยว
    กลุ่ม005

    ตอบลบ
  19. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  20. ส่งงานค่ะ .... อาจารย์ !!!

    http://turismindustrydpu0004nichapakpil.blogspot.com/

    น.ส. ณิชาภัค พิไลโชค -- 530105030202

    คณะศิลปศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์
    สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม

    ขอคำแนะนำ ด้วยนะค่ะ อาจารย์ .. !!

    ตอบลบ
  21. ดีครับ อ.พิทยะ ครับ รบกวน อ เข้าไปตรวจให้ผมด้วยน่ะครับ

    http://lpthony.blogspot.com

    น ธีรพงษ์ แซ่หยาง 50136-0014

    คณะศิลปศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ สาขาภาษาจีน
    ขออภัยถ้ามีการผิดพลาดด้วยน่ะครับ

    ตอบลบ
  22. http://turismindustrydpu0004nichapakpil.blogspot.com/

    อาจารย์ .. ตัวอักษร ใหญ่พอมั้ยค่ะ ???
    ต้องแก้ อะไรอีก ช่วยแนะนำด้วยค่ะ .....

    ตอบลบ
  23. ส่งงานค่ะ


    http://tourismindustrydpu005hathaitip.blogspot.com/


    5201-0111-0045
    นางสาว หทัยทิพย์ พหลธรรมสาร
    คณะบริหารธุรกิจ
    สาขาการจัดการธุรกิจท่องเที่ยว

    ตอบลบ