ที่ปรึกษาชมรมท่องเที่ยวยั่งยืนเพื่อชุมชนถ่ายทอดเรื่องราว
เที่ยวชุมชนบ้านหนองขาว
ชมรมท่องเที่ยวยั่งยืนเพื่อชุมชน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ประกอบด้วยกรรมการชมรม สมาชิกชมรม อาจารย์ที่ปรึกษาชมรมได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงชุมชนเพื่อศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวบ้านหนองขาว ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และชุมชนบ้านห้วยสะพานสามัคคี ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ในภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา2551 โดยได้ติดต่อไปยังอาจารย์ อุบล อำนวยและอาจารย์มนู อำนวย ผู้นำกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านหนองขาว เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการจัดการต้อนรับสมาชิกชมรม
หม้อยายที่บ้านหนองขาว ที่พึ่งทางใจและเชื่อมโยงคนในอดีตเข้ากับคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน
การบูชาหม้อยายถือเป็นสวัสดิมงคลที่ชาวบ้านหนองขาวยึดถือปฏิบัติมาแต่โบราณนับร้อยๆปี
ผ้าขาวม้าร้อยสีทอจากผ้าฝ้ายหลากสี ราคาสมคุณภาพที่บ้านหนองขาว
การบูชาหม้อยายถือเป็นสวัสดิมงคลที่ชาวบ้านหนองขาวยึดถือปฏิบัติมาแต่โบราณนับร้อยๆปี
เที่ยวป่าชุมชนบ้านห้วยสะพาน
ป่าชุมชนบ้านห้วยสะพานตำบลหนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี อยู่ห่างบ้านบ้านหนองขาวประมาณ 10 กิโลเมตร ในภาพลุงประยงค์ แก้วประดิษฐ์ ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านห้วยสะพานสามัคคีกำลังเล่าเกี่ยวกับความเป็นมาของป่าชุมชนบ้านห้วยสะพานให้เราฟังว่า ป่าชุมชนแห่งนี้เคยถูกนายทุนฮุบไปเป็นพื้นที่กว่า 700 ไร่ ชาวบ้านได้ร่วมใจกับต่อสู้ด้วยกระบวนการแบบชุมชนเข้มแข็ง จนมีชัยชนะสามารถนำทรัพยากรของชาติกลับคืนมาเป็นของชุมชนอีกครั้ง แลกกับชีวิตของญาติมิตรที่ร่วมต่อสู้กันมาจำนวนหนึ่ง ต่อมาก็ได้รับความไว้วางใจจากกรมทรัพยากรป่าไม้ให้ดูแลพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 2,000 ไร่ (พี่ผึ้ง ดีใจมาก ชูสี่นิ้ว บอกว่า อยากศึกษาธรรมชาติที่บ้านห้วยสะพานต่ออีก 4 วัน)
ชาวบ้านตำบลห้วยโรง3-4หมู่บ้านร่วมกันกำหนดระเบียบในการใช้พื้นที่ป่า เช่น ห้ามจับสัตว์ ห้ามล่าสัตว์ ห้ามขุดแย้ ห้ามขุดบึ้ง ห้ามตัดไม้ ห้ามตีผึ้ง เป็นต้น แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์จากป่าในกรณีอื่นได้ เช่น เก็บผักหวาน มะขาวป้อม ตะคร้อ หรือพืชยาสมุนไพรได้ นอกจากนี้ยังสามารถเก็บเห็ดโคนในช่วงปลายฝนต้นหนาว เห็ดโคนที่นี่มีชุกชุม ดอกใหญ่ รสชาติดี และมีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของเมืองกาญจนบุรี
ในพื้นที่ป่าชุมชนมีสถานที่ตั้งแคมป์ เรียนรู้คุณค่าพืชสมุนไพรนานาชนิด สิปป์ภัสส์ โล้กูลประกิต นั่งตะเบ๊ะ พี่ต้น(ฤาชา ประมาคะตัง)ประธานชมรม พกโทรโข่งไปด้วย แบ๊งค์ จากนิเทศศาสตร์หมดแรง บิ๊กนั่งขวาสุด ที่นี่มีนักศึกษาและนักวิชาการทั้งในและต่างประเทศจากหลายสถาบันมาดูงานตลอดปี บ้างก็มาฝึกทำนา เกี่ยวข้าว ทอผ้า ฯลฯ
พี่อิ๋ว สาวเมืองราชบุรี ใส่ส้นสูงไปลุยป่าชุมชน จนเกิดรอยทรายคล้ายรูบึ้ง กำลังยืนฟังบรรยาย หนุ่มวีรวัฒน์ วรพฤกษกิจ เสื้อแดง ยืนด้านหลัง
เห็นชุมชนมีคติเรื่องการปลูกป่าสัญญาใจ สมาชิกของเราไม่รอช้า......
สีสวย..แต่กินไม่ได้ เจ้านี่คือเห็ดกาบหมาก เห็ดพิษชนิดหนึ่ง
เสื้อแดงใส่หมวกเอียงหน่อยๆคือพี่ผึ้ง เหตุที่ทางบ้านเรียกว่าผึ้งเนื่องจากสามารถร้องพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้อย่างไพเราะ ยืนกอดอกด้านหลังคือคุณนายมะเหมี่ยว(ยุพา ศรีขาว) นายราเชน ชูเชิด หัวเหลืองสไตล์อัลเทอร์เนทีฟ ยืนเสียบข้างๆอาจารย์ สุวรรณ อายุโย(เสื้อดำ) กับทินพันธุ์ (เสื้อลายขวาง) กับหลายๆคนกำลังยืนดูต้นตะเคียนที่ลุงประยงค์บอกว่า เขาไม่ใช้สร้างบ้านเพราะเป็นไม้เนื้อแข็ง มิฉะนั้นภูมิปัญญาด้านการสร้างเรือนของเราจะสูญหายไปเพราะกว่าจะได้สร้างบ้านทีก็กินเวลานานหลายชั่วอายุคน นายตู่ยืนท้าวเอวเอียงข้างหน้าสุด
พี่ต้น(ใส่แว่นกันแดด)เอาเปรียบเพื่อนเรียนจบไปก่อนเลยได้ไปฝึกปรือวิทยายุทธ์ต่อที่ร้านสุกี้ชื่อดังและร้านโดนัทมีชื่อเช่นกันตามลำดับ สุวณ สิปป์ภัสส์และวีรวัฒน์กำลังไล่ตามออกไป
http://turismindustrydpu0004aruneeaphi.blogspot.com
ตอบลบนางสาวอรุณี อภิดิลกกุล
530105030217
คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม
<<>>
ศันสนีย์ ปะนะสุภา
ตอบลบhttp://tourismindustry0004sunsanee.blogspot.com
530105030221
คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม
มันไม่ใช่ข้าวต้มผัดหรือข้าวต้มมัดอย่างที่เข้าใจนะครับ มันเรียกว่ามัดใต้ต่างจากข้าวต้มมัดโดยสิ้นเชิงเพราะไส้ในไม่ได้เป็นกล้วย แต่เป็นถั่วเขียว เกลือ พริกไทย และมันหมู ที่สำคัญปรุงให้สุกด้วยวิธีการต้ม มิใช่การนึ่งอย่างข้าวต้มมัด
ตอบลบ